๊Un CUT เมียทาส 05

 

เมียทาส

05





ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆ

เสียงนาฬิกาดังปลุกคนตัวขาวที่กำลังฝันดีให้ตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนขนาดเล็ก คนตัวบางลุกขึ้นนั่งเกาหัวด้วยความมึนงง เอื้อมมือไปกดปิดโทรศัพท์ที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่หกโมงเช้ากันไม่ให้ไปรบกวนใครอีกคนที่กำลังหลับสบาย ร่างเปลือยเปล่าขาวนวลค่อยๆ ขยับตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งเพื่อไปทำหน้าที่เดิมๆ ของตนในยามเช้า

ควินน์คว้าเอาเสื้อยืดตัวใหญ่ของใครอีกคนที่กำลังหลับอยู่มาสวมเพื่อกันภาพไม่น่าดูชมของตัวเองพร้อมๆ กับจัดการเสื้อผ้าที่รายล้อมอยู่รอบๆ เตียงจากกิจกรรมเมื่อคืน มันเป็นวันที่สามแล้วที่เขาทำแบบนี้ ไม่ได้หมายถึงเก็บกองผ้าที่ถูกเหวี่ยงลงมาแต่เป็นการตื่นเช้าแล้วจัดการกับอะไรๆ ในห้องพักแสนจะโทรมนี่ให้มันสะอาดขึ้น

ประตูไม้ที่เก่าๆ และโซฟาหนังผุๆ อันเดิมถูกปัดฝุ่นเพราะเมื่อวานเกิดเหตุการณ์เถียงกันนิดหน่อยตามปกติของพวกเขา จบลงที่ไอ้คนหน้านิ่งมันเขวี้ยงข้าวของใส่ผนัง อาละวาดด้วยความโมโหที่โดนขัดใจก่อนจะจัดการลากเขาเข้าห้องนอน และ...ก็จบที่เตียงนั่น ทุกปัญหาเลย เหมือนทุกที สุดท้ายเช้ามาคนที่ต้องลากสังขารมาทำความสะอาดก็เขาอีกนั่นแหละ ลองไม่ทำดูสิ พ่อคุณท่านได้ถล่มห้องแน่นอนคราวนี้และจะต้องระเห็ดกันไปนอนวัดแหงๆ

“ห้าววววววว~” คนหน้าหวานเปิดปากหาวหวอดๆ อย่างไม่เกรงใจใคร กวาดฝุ่นไปง่วงไปตาแทบจะปิดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ควินน์ลดความพยายามลง เขายังมีงานรีดผ้ารออยู่ ทำข้าวต้มอีกด้วย จะออกไปซื้อที่ตลาดก็ไปไม่ได้ ไอ้เถื่อนมันห้ามไว้ บอกว่าถ้าจะไปไหนมันจะเป็นคนส่งไปเอง แล้วนอนตายอยู่บนเตียงแบบนั้นเหรอจะส่งไป ขืนไปปลุกองค์พ่อก็ได้ลงร่างอีกน่ะสิ

หมับ!

 “เฮ้ย!!!

คนตัวเล็กที่กำลังหาวเพลินๆ โดนกอดจากข้างหลังแบบกะทันหันจนสะดุ้งเกือบหลุดสัตว์สี่ขาชอบลากไก่ไปกินในน้ำใส่คนที่แอบมากอดแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง โชคดีที่โจรย่องเบาดันพูดแทรกซะก่อนเลยทำให้คำหยาบไม่ได้ถูกพ่นออกไปจากปากอิ่ม

 “ตื่นมาทำไม” คนหล่อแห่งวิศวกรรมโยธาถามด้วยความง่วงงุนเหมือนยังไม่ตื่นดี

“ก็ใครล่ะทำห้องเละ ถามจริงนะ เท่านี้มันยังไม่พอเหรอ มองไปดิ๊ เก่าจะตายห่าอยู่แล้วหัดควบคุมอารมณ์บ้าง สักวันจะไม่มีที่อยู่”

“ทำไม?”

“ก็ถ้าห้องมันพังไปเจ้าของหอคงยินดีให้ตัวทำลายอย่างนิ่งอยู่ต่อหรอก คนอะไรขว้างได้แม้แต่หอมหัวใหญ่ในครัว”

ควินน์บ่นงุงิไปมาแล้วกวาดต่อในสภาพแม่ลิงมีลูกน้อยติดหลัง สิงห์ซบหน้าลงกับบ่าเล็ก สูดลมหายใจลึกๆ เก็บกักความหอมจากซอกคอขาวให้เต็มปอด

“โทษผู้หญิงเมื่อคืนดิ โทรมาชวนเมียกูไปเยทำไม”

มือขาวชะงักไม้กวาดอยู่กับที่ กรอกตามองบนด้วยความอดสูในจิตใจ มันก็จริงที่คู่ขาเก่าๆ มักจะโทรมาเวลาเหงา แต่เขาก็ไม่เคยเล่นด้วยนี่นา ใครใช้ให้ไอ้นิ่งคิดจริงจังแล้วทำลายข้าวของไม่ทราบ

“ก็บอกแล้วมั้ยว่าไม่เคยเล่นด้วยเลยรอบสอง แต่คุณมึงไม่ฟังเอง”

“บอกตอนเสร็จไปสองน้ำ ไม่ทันหรอก”

“อะ...ไอ้นิ่ง!!!

เด็กเครื่องกลตวาดลั่นห้อง หันไปหมายจะต่อว่าเต็มที่แต่ก็โดนคนเอาแต่ใจฉวยโอกาสหอมแก้วขาวไปฟอดใหญ่ก่อนเดินหนีเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้แม่บ้านจำเป็นอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น

“ถ้ามีคนชวนไปอีก บอกมันด้วย ตีนผัวมึงว่าง เดี๋ยวกูช่วยแก้คันให้มันเอง” สิงห์เหนือทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ควินน์อย่างหยอกเย้า “ส่วนมึง มี XXX ของกูช่วยแก้คันอยู่แล้ว อย่าแรด!

ปัง!

เสียงปิดประตูห้องน้ำไม่ทำให้คนที่กำลังอึ้งหายอาการตกใจได้ ควินน์อึกอักมือไม้หาที่วางไม่ได้ ไอ้นิ่งมันพูดอะไร แก้คันที่ไหน เขาไปแรดยังไง นี่ผู้ชายเว้ย!!!

“อะ...อะ...ไอ้นิ่ง ไอ้เถื่อน ออกมานะ โว้ยยยย ออกมาให้ตีเดี๋ยวนี้ ออกมา!!! ไม่งั้นข้าวเช้าอย่าหวังจะได้แดกกกก”

“กูแดกมึงแทนได้ ขอบใจ”

ไอ้เหี้ยยยยยย!!!!

ควินน์แทบจะร้องกรี๊ดด้วยความโมโห เขากระทืบเท้าอยู่กลางห้องแบบนั้นหลายครั้ง กระชับด้ามไม้กวาดไว้ทำท่าจะเดินไปทุบประตูห้องน้ำแต่พอนึกขึ้นได้ว่ากลอนของประตูบานนี้มันไม่ดี ถ้าทุบมันแล้วหลุดคามือต่อไปตอนอาบน้ำเขาคงโดนทำแต้มทะลวงหลังวันละสามหน มันต้องมาอ้างแน่นอนว่าถอดเสื้อผ้าล่อตาเสือ ไม่เอาๆ ได้ไม่คุ้มเสีย สะใจเล็กน้อยไม่เท่าหยาดเหงื่อที่ต้องมาเสียไป

“กูไม่ทำแม่งละ งานบงงานบ้าน” คนโมโหเปลี่ยนมาทิ้งไม้กวาดลงพื้นเสียงดัง “มึงล้างห้องน้ำด้วยเลยนะไอ้นิ่ง!

เอาสิ มันสั่งเขาได้เขาก็ต้องสั่งมันได้

ร่างเล็กเชิดหน้าอย่างผู้มีชัยอยู่หน้าห้องน้ำ เขาเป็นเมียไง เมียก็ต้องใหญ่ใช่มะ รู้จักป้ะเมียคุมอ่ะ เพราะฉะนั้นคนเป็นผัวมันจะต้องเกรงใจและก้มลงมากราบแทบเท้าคู่งามคู่นี้สิเว้ย มันจะต้องหงอให้เรา!!!

“พูดใหม่ซิ เมื่อกี้ขึ้นมึงกับใครนะ?”

!!!!!!

แต่ดูท่าจะเชิดหน้าได้ไม่นานเมื่อเสียงทุ้มดุที่ดังนั้นอยู่ใกล้กับประตูทำให้ได้ยินเด่นชัดจนควินน์นิ่งค้างไป ลูกบิดกำลังหมุนออกและก่อนที่มันจะสุดเป็นเขาเองที่เอื้อมไปรั้งไว้พร้อมออกแรงกดล็อกที่เดิมเพิ่มเติมคือแถเสียงสั่น

 “บะ บอกว่าจะลงไปเอากางเกงเน่าของนิ่งที่ปั่นไว้เมื่อคืนน่ะ เห็นมียีนแค่สองตัว ผัวขาไม่ต้องออกมานะ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนเงาะชุบทองไปเลย ไม่ต้องรีบๆ” พูดแค่นั้นก่อนจะใส่เกียร์หมาโกยแน่บออกนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว นาทีนี้คำว่าเมียดูไร้ค่าไปราวกิ่งไม้แห้งรอวันโดนเผา ถ้าประตูเปิดขึ้นมาล่ะก็เละของจริงแน่ๆ

ไม่เอา ควินน์จะไม่รอให้มัจจุราชมาทักทายที่สะโพกน้อยๆ เป็นรอบเช้า ไม่เอาด้วยหรอก!!!!

สิงห์ที่เปิดประตูออกมามองตามทันแผ่นหลังบางก็ได้แต่อมยิ้ม เขาเดินออกมาเก็บไม้กวาดที่ตกอยู่ไปวางให้เข้าที่ มองฝุ่นและดินที่อยู่รอบๆ ห้องอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่ได้ซีเรียสมากมายอยู่แล้ว ปกติก็ไม่เคยกวาด ไม่ได้บังคับให้อีกคนทำสักหน่อย แต่พอเห็นร่างบางทำให้เองแล้วก็อดรู้สึกดีนิดๆ ไม่ได้ อะไรๆ ในชีวิตเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ควินน์ (จำใจ) ยอมเป็นเมียเขาแบบเต็มตัว

ห้องนี้สะอาดขึ้นเพราะมีเมียมาอยู่ด้วย มีข้าวกินที่ห้องเพราะเมียทำให้ ไม่เหงาอีกเลยเพราะมีเมียให้แกล้ง แล้วอะไรอีกนะ...อ้อ! มีหมอนข้างนุ่มๆ หอมๆ มาให้กอดฝันดีอีกด้วย เป็นการได้เมียโคตรโชคดีเลยนะ สิงห์เหนือเนี่ย

 

เอี๊ยดๆๆๆ

เสียงจักรยานที่ดูท่าจะขึ้นสนิมหน่อยๆ เพราะน้ำฝนเรียกความสนใจจากนักศึกษาคณะวิศวะกรรมศาสตร์ซึ่งนั่งอยู่ใต้ตึกคณะได้เป็นอย่างดี ยิ่งบนจักรยานคันนั้นมีผู้ชายหน้าตาดีถึงสองคนด้วยแล้วไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะเด่นขนาดไหน ควินน์สะพายทั้งกระเป๋าตัวเองและกอดกระเป๋าของสารถีส่วนตัวเอาไว้แน่น ตากลมเหลือบมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง สายตามากมายที่มองมามันเหมือนกำลังสงสัยว่าทำไมเขาสองคนที่อยู่คนละสาขาถึงได้มาด้วยกัน

นี่ถ้าเป็นผู้หญิงน่ารักๆ สักคนมานั่งแทนที่ควินน์คงมองว่ามันโรแมนติกดี แต่ไม่ใช่กับตัวเองที่ต้องทนเจ็บระบมกับทางข้างหลังแบบนี้ รู้สึกสมเพชตัวเอง ยอมนั่งรถเมย์ดีกว่าอีก (ก็แค่คิดในใจอย่าไปบอกนิ่งมันนะ)

“สามโมง เบี้ยวอีก โดน”

ช่างเป็นการอธิบายได้เข้าใจเหลือเกินกับประโยคเดียวไม่กี่คำ ครอบคลุมจนควินน์แทบจะยกมือกราบพร้อมไปหาฮอลคูลมาให้อม หรือถ้าพี่แกต้องการบ๊วยสักเม็ดเขาก็ยินดีจะซื้อมายัดปากให้เผื่อจะได้พูดภาษาคนเป็นกับเขาบ้าง อายสายตาคนรอบข้างไม่พอยังต้องมานั่งละเหี่ยใจแปลความหมายคำพูดของมันอีก เอาควินน์ไปลงโปรแกรมซีเคียวริตี้รับมือกับไอ้นิ่งที

“ทำไมต้องนัดไปหาที่สระด้วยอ่ะ นี่ไม่ใช่คนในชมรมนั้นป้ะ แล้ววันนี้พวกพี่เขาก็นัดเข้าเชียร์ จะให้ไปตรงสามโมงเป๊ะได้ยังไง” ร่างเล็กเถียงพร้อมทำหน้ายู่ก่อนจะโดนมือหนาบีบเข้าที่แก้มจนปากจู๋

“ตอแหล กูเช็คแล้ว มึงว่าง”

คนหน้านิ่งพูดด้วยโทนเสียงเดิมเพิ่มเติมคือสายตาอาฆาตประหนึ่งควินน์เผลอเดินสะดุดแล้วเอาหัวไปโหม่งเป้ามันอย่างไรอย่างนั้น เออ! ยอมรับก็ได้ว่าโป้ปด แต่แล้วไงอ่ะ ขอเวลาไปอ้อยสาวบ้างไม่ได้เลยเหรอ หว่านเสน่ห์ที่มีมาตั้งแต่เกิดบ้างอ่ะได้ป้ะ

“เป็นเมียกู ไม่คิดถึงกู?”

คำถามช่างน่าถีบจักรยานให้พุ่งไปชนต้นมะขวิด ควินน์ได้แต่นิ่งไม่กล้าตอบความจริงว่า คิดถึงมึงตอนอาจารย์สมรล็อกห้องเท่านั้นแหละเพราะไม่รู้ทำไมเวลาเจอเหตุการณ์แบบนั้นแค่พูดว่า ไอ้เชี่ยสิงห์โยธา มึงมันเลวทำกูมาสาย แค่นั้นประตูก็เปิดออกอย่างง่ายดาย

เข้าใจแล้วว่าอิทธิฤทธิ์ไอ้นิ่งมันมีจริง

“.....”

“ควินน์?”

“อ่ะ....เออ สามโมงที่สระ แต่เผื่อเวลาให้เดินหน่อยดิ”

“สิบห้านาที”

หนุ่มโยธาพูดต่อเวลาให้แค่นั้นก่อนจะปั่นจักรยานเสียงดังลั่นออกจากตึกเรียนของควินน์ไป ไม่วายหันกลับมามองเป็นระยะว่าเมียสุดที่รักยืนโบกมือยิ้มหวานคอยส่งหรือเปล่า แน่นอนว่าร่างเล็กทำ แต่พอลับสายตาไปเท่านั้นแหละเขาก็รีบดึงมือลงมาทันที รอยยิ้มฝืนๆ หุบฉับกลายเป็นแบะปากและกระทืบเท้ารัวๆ ตามประสาเด็กเอาแต่ใจ

“ฮึ่ยๆๆๆ ไอ้หน้าปลาตายเอ๊ย คิดว่ากลัวเหรอวะ แบร่ๆๆๆๆ”

แลบลิ้นปลิ้นตาทำเก่งอยู่ได้สักพักพอให้ใจสบลงบ้าง ร่างเพรียวสะบัดตัวกลับมาเพื่อจะไปเข้าเรียนแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อหันไปปะทะอกแกร่งของใครบางคนพอดี

“โอ๊ะ!

“ระวังๆ สิไอ้ควินน์”

“พี่ปืน!!!

เด็กเครื่องกลอุทานเสียงดังเมื่อได้มองหน้าพี่รหัสตัวเองชัดๆ หนุ่มตี๋ดีกรีหัวกะทิ หน้าตาของมหาวิทยาลัยอีกคนกำลังยืนส่งยิ้มมาให้เขาอย่างเป็นมิตร เท่ระเบิดบาดใจชาย นี่แหละไอดอลที่เด็กลูกครึ่งอย่างเขานับถือเคารพบูชาปานรูปปั้นพระเยซู

...แต่เป็นพระเยซูที่นำพาหายนะมาสู่ชีวิตนะ!

“ไอ้เหี้ยพี่ปืนนนนนนนน”

ผลั่วะ!

“โอ๊ย ควินน์!

“คืนก่อนนู้นมึงบังอาจมากนะที่ฉกเด็กกูไปแล้วปล่อยให้กูแอ้งแม้งตายคาผับ ไอ้พี่รหัสเวรตะไล ไอ้นกเขาขันสามนาที เอาหญิงไปกูไม่ว่า  แต่ช่วยลากกูไปเก็บด้วย มึงรู้บ้างป้ะว่าเพราะมึงเลยตื่นมากูถึง...”

“...???”

“....”

“อะไรวะควินน์ ถึงไรอ่ะ กูฟังอยู่” มือใหญ่ลูบรอยที่โดนน้องรหัสต่อยไปมา หมัดมดที่อีกคนกระแทกเบ้าหน้าไม่ได้เจ็บมากมายอะไรแต่ก็เล่นเอาชาใช้ได้อยู่

ควินน์อึกอักขึ้นมาทันที เหมือนกำลังพูดความลับที่มีไม่กี่คนรู้ออกมาให้พี่ชายปากสว่างฟัง เขาเม้มปากตัวเองทันทีพร้อมกับเชิดหน้าหนีไม่ตอบคำถามรุ่นพี่ที่สนิทกันตั้งแต่วันปฐมนิเทศ

“เอ้า! ไอ้นี่ กวนตีนนี่หว่า มึงหาเรื่องต่อยกูเพราะแย่งน้องนิ้งคืนนั้นแน่ๆ เลยไอ้สัส แต่ช่างเถอะ เพราะคนนี่แซ่บจริง กูต่อยันเมื่อวาน แต่วันนี้เบื่อแล้ว มึงจะเอาคืนก็ได้นะ”

“ส้นตีน!

เด็กปีหนึ่งกัดฟันพูดพร้อมยกขาทำท่าจะถีบแต่ปืนไวกว่าม้วนตัวหลบมาโอบไหล่บางไว้แน่น

“เอาน่า น้องรัก หน้าอย่างมึงคงหาได้อีกเยอะ ว่าแต่คืนนี้ว่างป่ะ ไปผับกับพวกกูหน่อยดิ ไหนๆ มึงก็ชอบเที่ยวอยู่แล้วแต่เพื่อนคนเดียวอย่างได้เด็กเด๋อวิทมันเสือกสุภาพเป็นพระยุคสี่จุดศูนย์ เพราะฉะนั้นไปกับรุ่นพี่แบบกูแหละ จะได้ไม่เหงา”

“มันจะเหงากว่าเพราะพวกพี่มึงมาแย่งหญิงน่ะสิ ฟายยยย อย่านึกนะว่าผมไม่รู้ จะเอาหน้าหล่อๆ ของไอ้ควินน์ไปขายเรียกเหยื่อแล้วมอมกูทิ้งคาโต๊ะอีกล่ะสิ โนววววววว ดูปากนะฮะ โนวววววววว!!!!!

ควินน์สะบัดตัวออกจากรุ่นพี่แล้วเดินหนีทันทีแต่ปืนก็เดินตามพร้อมโวยวายลั่น

“เฮ้ยยยย ไม่เอาดิวะ ไหนว่าเด็กเครื่องกลคนจริงไง”

เออ ก็จริงน่ะสิ ตื่นขึ้นมานี่ได้ผัวเลย!

“ไอ้ควินน์!!! ช่วยหน่อยดิวะ ถ้ามีมึงกูก็จะได้กินของดี มึงมันเด็ดไงไม่รู้ตัวหรอ”

รู้!  รู้ชัดด้วย ไม่งั้นเมื่อคืนคงไม่โดนไปหลายยก

“ควินน์ ไอ้ควินนนนนน์”

“โว้ยยย เลิกตามสักทีพี่ปืน จะทำตัวไม่น่าเคารพไปถึงไหน ไอคิวพี่มันดีกว่าสันดานจริงๆ ออกไปเลยนะ ผมจะไปเรียนแล้ว” เสียงหวานตะคอกใส่ร่างสูงของพี่รหัส เขาเริ่มหมดความอดทนขึ้นทุกที ควินน์ไม่ชอบคนช่างตื้อ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายเพราะมันน่ารำคาญ

“มึงก็ กูเป็นพี่มึงนะ สายรหัสที่รักกันยิ่งกว่าสายเลือดแท้ๆ อ่ะ”

“งั้นเราตัดสายกันตรงนี้เลย”

“เฮ้ยยย!!!!

นอกจากจะไม่แคร์แล้วควินน์ยังไม่สนใจอีกด้วย เขาก้าวขึ้นบันไดนำปืนไปโดยไม่หันไปตอบเสียงกระเง้ากระงอดให้เสียสุขภาพจิตจนมาถึงห้องเรียนนั่นแหละ ร่างเล็กเข้าทางประตูหลังเดินไปนั่งกับเพื่อน อาจารย์ที่กำลังตั้งใจสอนหันมามองเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ วิทยายื่นสมุดเล็คเชอร์ที่จดไว้คร่าวๆ มาให้พร้อมกับมองไปยังรุ่นพี่ข้างหลังแล้วยกมือไหว้

“พี่ปืน หวัดดีครับ”

“เออ ดี”

สองหนุ่มนั่งลง ควินน์ที่อยู่ตรงกลางหันไปถามหัวข้อที่ไม่เข้าใจกับเพื่อนโดยปล่อยให้พี่รหัสนั่งหงอยคนเดียว เขาทำการลอกความรู้ที่พลาดไปลงสมุดของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนจะคืนมันให้กับวิทยา เด็กปีหนึ่งหันกลับไปตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของคนอีกฝั่งสะกิดให้หันไปหา

“นะควินน์นะ กูลงทุนมานั่งเฝ้าเป็นพ่อแบบนี้ ไปเถอะ แล้วก็...ไม่มีกูเป็นแบค มึงจะเก๊กไม่ได้อีกเลยนะเว้ย ตีนรุ่นพี่คนอื่นจะต้องเสยเข้าที่ปลายคางมึงแน่นอน”

ปืนพูดเหมือนกำลังเตือนแต่จริงๆ หว่านล้อมต่างหาก เขามองน้องรหัสที่ไม่รู้โกรธอะไรกันด้วยสายตาวิงวอน เพราะควินน์หน้าตาดี จัดได้ว่าดีมากๆ เลยในที่มืด สาวๆ มักจะหลงมาติดกับเพราะเบ้าที่พ่อแม่ให้มา แต่อย่าเอาไฟมาส่องหน้านะ ความสวยมันจะออกแล้วจะได้หนุ่มหล่อๆ แทน

“ไม่ชัดอีกอ่อ ก็บอกว่าไม่ไปไง แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแบคนะ ผมมีแบคที่ดีกว่าพี่หนุนหลังอยู่ละ สบายใจได้เลยแล้วไปสบายนะพี่ปืน”

“ไอ้สัส กูยังไม่ตาย” ปืนทำท่ายกมือจะตบหัวน้องชายเหมือนที่เคยทำแต่เมื่อเห็นแววตาไม่เล่นของควินน์ก็จำต้องหุบแขนลง ไม่น่าเชื่อว่าเสือจะหยุดล่าเหยื่อได้ เขางงใจกับรุ่นน้องเสียจริง

“อวดดีนะมึง แบคไหนวะจะใหญ่กว่ากู อย่ามาๆ มึงมโนน่ะสิไอ้ควินน์”

“เปล่ามโนสักหน่อย รู้จักพี่สิงห์โยธาป่ะ นั่นแหละแบคกูครับพี่”

“ห๊ะ! ไอ้สิง!!” ปืนร้องเสียงหลงแล้วส่ายหน้าไม่เชื่อ “โม้ไอ้ห่า อย่างกลุ่มนั้นอ่ะนะจะรับมึงเข้าพวก เดินข้างกันในฐานะเบ๊ยังดูน่าเชื่อถือกว่าเป็นเพื่อนกันเลย”

ก็พอดีไม่ได้เป็นเพื่อนอ่ะนะ

“หรือมึงรู้จักไอ้สิงห์มาก่อน?”

“เอาจริงๆ นะพี่ ไม่รู้จักหรอก” เด็กลูกครึ่งตอบหน้าซื่อตาใส “เมื่อก่อนผมไม่รู้จักครับ แต่ทุกวันนี้...รู้จักดีเลยล่ะ”

“...!!!!

รู้จักกันยันไซส์กางเกงใน สนิทเนื้อแนบเนื้อจนไม่มีที่ว่างเลยแหละขอบอก

“เย็นนี้มีนัดไปว่ายน้ำกันด้วย เพราะแบบนั้นถ้าต่อไปนี้พี่มาก่อกวนผมเกินหน้าที่พี่รหัสและชักชวนไปในทางไม่ดีผมจะฟ้อง พี่ต้องโดนตีนแน่นอนรู้ใช่ป้ะ”

“กูพี่มึงนะควินน์”

“พี่ที่ทิ้งกูกลางผับ”

“ขอโทษก็ได้!!!

“ไม่! คำขอโทษของพี่มึงมันไม่สาสมกับสิ่งที่กูเสียไป”

สองพี่น้องสายรหัสโต้เถียงกันดังลั่นห้องโดยลืมไปเสียสนิทเลยว่าข้างหน้ามีอาจารย์ยืนดูอยู่ ผลสุดท้ายควินน์และปืนก็โดนเฉดหัวไปนอกห้องเรียน ห้ามเข้ามาอีกจนกว่าจะเลิกคลาส มันทำให้เด็กเครื่องกลหัวเสีย เขาชี้หน้าพี่ชายที่สนิทกันและกำลังตามง้อเพราะคิดว่าเขาโกรธที่โดนแย่งหญิง ยื่นคำขาดว่าถ้าพี่ปืนไม่โดนแบบที่เขาโดนอย่าหวังว่าจะยอมอภัยให้ก่อนจะหนีมานั่งคนเดียวใต้ต้นหูกระจง ควินน์รู้ดีว่าไอ้พี่รหัสมันไม่มีทางทำได้แน่นอน ก็เพราะสิ่งที่เขาเจอคือเสียตัวให้ผู้ชาย ถ้าพี่ปืนอยากได้รับการอภัยก็จงมีผัวซะ!

แต่มันคงไม่ยอมหรอกเด็กลูกครึ่งรู้ดี

เขามองไปไกลสุดสายตาอย่างเหม่อลอย ยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วหดหู่ใจ ถ้าไอ้ผัวเถื่อนรู้ว่าเขาโดนเตะตูดออกมานั่งหงอยอยู่แบบนี้มันคงเอาหน้าตาปลาตายมามองอย่างสมเพชพร้อมประโยคที่แสนสั้นสุดจะน่าเวทนาแน่ๆ แบบนั้นมันคงไม่ดี เพื่อให้เรื่องไม่ไปถึงหูใครอีกคน ควินน์ตัดสินใจไม่บ่นไม่โวยวายนั่งอย่างสงบเสงี่ยมรอเพื่อนลงมาเพื่อไปเรียนวิชาต่อไป

เวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสามตามที่นัดกับคนเผด็จการเอาไว้ ควินน์แอบงีบตอนเรียนทฤษฎีเพราะง่วงมากๆ กินอิ่มก็หลับเลย ร่างเล็กเดินงัวเงียลงมาจากตึก โบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักแล้วแยกทางกัน วิทยาไปห้องสมุดและเขาตรงไปที่ชมรมว่ายน้ำของมหาลัยที่แสนจะเต็มไปด้วยคนหล่อๆ โซฮอต หนึ่งในนั้นคงเป็นไอ้คนที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาตอนเข้าก้าวเข้าประตูพอดี

ผิวสีน้ำผึ้งกับกล้ามหน้าท้องแน่นๆ ที่ประดับไปด้วยรอยข่วนเล็กๆ ที่ทำเอาร่างเล็กหน้าแดงซ่าน หยดน้ำเกาะพราวชวนให้มองอย่างหลงใหล ตาคมนิ่งลึกฉายภาพเขาที่อยู่ตรงหน้าและปากบางรับจมูกโด่งเป็นสันราวกับจะทำให้คนมองละลายไปซะเดี๋ยวนั้น กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กก็รัดแน่นจนเห็นรูปร่างหนาแกร่งที่เคยได้สัมผัสมาเองกับมือสะกดสายตาให้ละไปไหนไม่ได้ ควินน์รู้สึกเข้าใจคำว่าหล่อชิบหายก็วันนี้แหละ

สิงห์มองคนที่ยืนจ้องเขาค้างอยู่ตรงประตูแล้วยกยิ้มมุมปาก หน้าตาน่ารักเวลามองมาเหมือนกำลังหลงใหลนั่นดูยั่วยวน และก็น่ากลั่นแกล้งไปในคราวเดียวกัน ร่างสูงก้าวไปหาในขณะที่ควินน์ยังตกอยู่ในภวังค์ มือหนาชุ่มไปด้วยน้ำเย็นๆ จากสระแตะลงบนปลายคางมน เชยขึ้นมาพร้อมเอาหน้าเข้าไปใกล้ให้ปลายจมูกชิดกัน

ภาพแสนจะหวานบาดตาทำสมาชิกชมรมคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์หันหน้าหนีด้วยความอิจฉา ไม่มีใครกล้าส่งเสียงรบกวนคนเย็นชาของสาขาโยธาด้วยรู้ว่าอนาคตคงไม่ยั่งยืน แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างศิวะและรสินธรณ์เองยังทำแค่แอบถ่ายรูปและอัดคลิปเงียบๆ เลย ดีที่วันนี้เฮียเกลือสั่งไม่ให้คนนอกเข้ามาในชมรม ไม่งั้นทอร์กออฟเดอะทาวน์ของเพจคืนนี้คงไม่พ้นอดีตเดือนมหาลัยโชว์สวีทเด็กปีหนึ่งแน่

ร่างสูงไล้ปลายจมูกไปตามสันที่โด่งสวยได้รูปของควินน์ แผ่วเบา อ่อนโยน แบบที่ร่างเล็กต้องหลับตาเพราะเคลิ้มฝัน ลมหายใจร้อนผ่าวส่งผ่านถึงกันและกันจนรู้สึกได้ หนุ่มโยธาทำทุกอย่างช้าๆ เหมือนกำลังเล้าโลมอารมณ์ของเด็กน้อยให้เตลิดไปไกล และเพราะมันช้า จะจูบก็ไม่จูบสักทีทำทุกคนที่รอฉากเลิฟซีนสุดโรแมนติกลุ้นกันตัวโก่งยิ่งกว่าดูบอลชิงแชมป์คู่สุดท้าย ศิวะกอดคอสินแน่นไปพร้อมๆ กับที่เฮียเกลือจิกผ้าขนหนูบนบ่าแทบขาดวิ่น มันฟินซะจนเหล่าชายชาตรีแทบบิดม้วนเป็นเลขแปด

แต่ก็อย่างที่รู้ว่าคนเย็นชามันร้ายกาจ สิงห์ปัดป่ายปลายจมูกไปทั่วหน้าใสเลยไปจนถึงติ่งหูเล็กๆ ขบกัดจนมันขึ้นสีก่อนจะเอ่ยประโยคสั้นๆ เบาๆ ให้เด็กเครื่องกลเบิกตาโพล่ง

“ไม่ต้องน้ำลายไหล ยังไงมึงก็ได้กินกู”

!!!!!

ควินน์เบิกตากว้าง สติที่ล่องลอยอยู่เข้าสู่ร่างทันทีแต่ก่อนที่จะโต้ตอบอะไรไปก็ถูกมือหนาคู่เดิมลากให้เดินตามซะก่อน ท่ามกลางความหัวเสียและความผิดหวังของคนทั้งชมรมที่อุตส่าห์ลุ้น เฮียเกลือปาผ้าขนหนูในมือทิ้ง ศิวะกับสินกระโดดลงน้ำดับอาการหัวร้อนดีที่โทรศัพท์ในมือมันรุ่นกันน้ำได้ ส่วนพวกที่เหลือส่งเสียงโห่โวยวายลั่น ก็แน่ล่ะ ขาแข็งกันตั้งนานนี่

“โหย!!! ไรวะเฮียสิงห์ หมดกันความฟินของน้องๆ เห็นใจกันบ้างป้ะ ผมนี่เยี่ยวแทบราด!!!

พลั่ก! ตู้มมมม

“ปีนเกลียว”

คนเย็นชามองร่างรุ่นน้องที่หงายคว่ำลงไปในสระเพราะแรงถีบของเขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วลากควินน์ให้เดินต่อโดยที่ร่างบางได้แต่กลืนน้ำลายดังเอื๊อกในลำคอ หวังว่าคราวหน้าจะไม่เป็นเขาหรอกนะที่โดนแบบนั้น ยิ่งชอบเผลอไปขัดใจมันบ่อยๆ ด้วย

“นะ นิ่ง...ไปไหน?”

“....”

อุตส่าห์กลั้นใจถามแต่เมื่อคำตอบที่ได้มันเป็นความเงียบควินน์จึงเลือกสงบปากสงบคำเดินตามเฉยๆ จนมาถึงโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าป้ายชมรม สิงห์ปล่อยมือนุ่มแล้วไปค้นตะกร้าหยิบกระดาษขึ้นมายื่นส่งให้เขาแผ่นนึง

“อะ...อะไร”

“เขียนซะ”

“ห๊ะ???

“กูสั่งให้เขียนก็เขียนไป ถามทำไม”

แหม พ่อคุณ ถามแค่นี้ดอกพิกุลจะร่วงเหรอ!!!!

ควินน์รับกระดาษมาพร้อมแอบแบะปากใส่ลับหลังคนหน้านิ่ง เขาก้มลงอ่านและใช้ปากกาเขียนไปด้วย มันคือใบสมัครเข้าชมรมว่ายน้ำ ร่างเล็กเงยหน้ามองคนเอาแต่ใจนิดๆ และปลงตก ยอมเขียนลงไปแบบไม่มีข้อโต้เถียง

“บอกก่อนนะว่าว่ายน้ำไม่เป็น”

“เออ รู้แล้ว”

หนุ่มโยธาสุดฮอตในชุดกางเกงว่ายน้ำคว้าเอาใบสมัครจากมือควินน์ไปยัดให้เฮียเกลือที่ยืนอยู่ไม่ไกล กระซิบกระซาบกันนิดหน่อยตำแหน่งผู้ดูแลนักกีฬาที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ถูกโยนให้เด็กลูกครึ่งทันที ควินน์โดนประธานชมรมลากตัวไปพูดคุยเรื่องหน้าที่ในระหว่างที่สมาชิกที่เหลือกำลังพักกัน

“เชรดดดดดดด ไอ้สิน กูว่าแถวๆ นี้เจ้าที่แรงว่ะ นั่งอยู่แล้วขนลุกแปลกๆ”

“ขนลุก? ทำไมอ่ะ กูไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย”

“เอ้า!!! ก็มีคนแถวๆ นี้อ่ะมึง...เมียมาคุม

“อ๋อออออออออ เก็ทละ”

สองเพื่อนซี้สุดแสบยิ้มให้กันก่อนจะสามัคคีพูดเสียดสีหนุ่มโยธาหน้านิ่งอีกคน สิงห์เหนือปรายตามองเล็กน้อยไม่ได้ใส่ใจอะไร ปล่อยให้เพื่อนแซะไปแบบนั้นด้วยความคิดที่ว่าพอเมื่อยปากมันก็หยุดเอง เขายังคงนั่งจ้องคนตัวขาวที่ฟังเฮียเกลือพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ แน่ล่ะ ในเมื่อว่ายน้ำไม่เป็นใครจะอยากอยู่ใกล้น้ำ

“บอกปีหนึ่งด้วย ห้ามลากควินน์ลงสระ” สิงห์พูดลอยๆ ให้เข้าหูเพื่อนรักทั้งสองคน สินและศิวะเลิกล้อแล้วหันไปมองตามสายตาเพื่อน เห็นพวกชอบปีนเกลียวไม่กลัวตายหลายคนมองเด็กเข้าใหม่ไม่วางตาก็พอเข้าใจได้

คนมันหวงอ่ะนะ

“น้องๆ มันก็แค่อยากต้อนรับสมาชิกใหม่ ไม่มีใครล้ำเส้นเล่นแรงหรอก มึงกังวลมากไป” ศิวะบอกเพื่อนด้วยท่าทางสบายๆ

“ไม่ให้ ไปบอกพวกมัน อยากตายก็แตะเลย”

แววตาเอาจริงของสิงห์ทำอีกสองคนมองหน้ากัน เป็นเพื่อนมาก็นาน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็เยอะ วันนี้สินและศิวะเองก็เพิ่งจะรู้นี่แหละว่าเพื่อนพูดน้อยของพวกเขา จริงจัง กับเรื่องของใครสักคนเป็น

"สิงห์ กูถามจริงๆ นะ ให้น้องมันเข้าชมรมว่ายน้ำทำไมวะถ้าไม่ให้มันว่ายน้ำ?" เป็นสินที่เอ่ยปากถามด้วยความสงสัย

"มันว่ายน้ำไม่เป็น มันไหว้เป็นแต่กู"

"อ้าว งั้นก็ไปสอนดิ๊ รอให้เมียมึงว่ายเป็นเองรึไง หรือจะให้พวกกูสอนแทน"

ศิวะไม่รอคำตอบของเพื่อนหยิบผ้าขนหนูทำท่าจะเดินไปหาเป้าหมายแต่ไม่ทันก้าวได้พ้นก็ถูกล็อกคอกลับมาที่เดิมซะก่อน

"อย่าเสือก กูสอนเอง...ตอนสระปิด"

“หึม?” / “หืม?”

“งงไร”

“เปล่าคร้าบบบบ เชิญลูกพี่ทำตามใจเลยยยยย กุญแจไปข่มขู่เอาที่เฮียเกลือนะครับ ไปเหอะว่ะสิน วันนี้กูไม่เข้าใจมันมามากพอแล้ว อีกนิดกูต้องประสาทแดกแน่นอน กลับไปนอนดูหนังโป๊ดีกว่า”

“อ้าว! เดี๋ยวไอ้สิว รอกูด้วย กูก็เอือมกับมันเหมือนกัน!!!

แล้วเพื่อนสนิททั้งสองก็พากันเดินหนีเขาไป ไม่วายไปเตือนปีหนึ่งตามคำสั่งด้วย ซึ่งมันดีเพราะถ้าเขาไปเองคงไม่ใช้ปากเตือน กำปั้นล้วนๆ แน่นอน

สิงห์กระโดดลงสระอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้ามองคนของเขาแล้ว และเมื่อเจ้าตัวเล็กเดินไปหยิบน้ำข้างในก็แอบส่งซิกให้ประธานชมรมซึ่งรู้กันดี แน่นอนว่าเขาได้ในสิ่งที่ต้องการ เฮียเกลือชูกุญแจขึ้นก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะให้เห็นง่ายแล้วหันไปทำงานของตนต่อ ปล่อยให้สมาชิกทำกิจกรรมกันตามอัธยาศัย ใครใคร่กลับก็ไม่ว่ากัน วันนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

ควินน์เอาผ้าขนหนู น้ำดื่ม และเสื้อคลุมมานั่งรอบริการสามีที่ขึ้นมานั่งริมสระบ่อยครั้ง ร่างขาวพาดผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนบ่า คอยซับหยดน้ำจากหน้าหล่อคมให้โดยที่อีกคนไม่ต้องร้องขอ เขาไม่ได้เต็มใจทำหรอกอย่าเข้าใจผิด ก็แค่ว่างเท่านั้นเอง แต่นั่งไปนั่งมาคนคอยปรนนิบัติก็หาวหวอดๆ พิงราวบันไดหลับไปทั้งอย่างนั้น กว่าจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีเวลาก็ปาเข้าไปหกโมงเย็นกว่าๆ แล้ว

ควินน์งัวเงีย ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามานอนอุตุตรงเก้าอี้ตัวยาวตั้งแต่เมื่อไหร่ แขนขาวยันตัวเองให้ลุกขึ้นช้าๆ ท่ามกลางความเงียบและไร้ผู้คน สระน้ำดูเวิ้งว้างน่ากลัวเหมือนในหนังผีไม่มีผิด เขาคงไม่ได้กำลังโดนดีอยู่หรอกใช่มั้ย ตากลมเหลือบไปเห็นผ้าขนหนูและเสื้อคลุมข้างตัวก็นึกถึงคนหน้าตายซึ่งหายตัวไป

หรือเขาจะโดนไอ้เถื่อนแกล้ง? แบบหลอกผีอะไรอย่างนั้น...

ครืดดดดดด

“เฮ้ย!!!” ยังไม่ทันคิดอะไรได้ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ควินน์คว้าผ้าขนหนูพุ่งออกจากเก้าอี้ด้วยความเร็ว ทั้งกลัวทั้งตกใจ ความตื่นตระหนกทำสติหายไปหมด สิ่งเดียวที่คิดได้ในตอนนี้คือ...

แหกปากมันให้สุดเสียงไปเลย

“นิ่ง!!! ฮือออออๆ ช่วยด้วยยยยย!!!

ไม่รู้ว่าจะได้ผลมั้ยแต่น้ำตาใสๆ ของลูกผู้ชายคนแมนที่กลัวผีเข้าไส้ก็ไหลออกมาแล้ว ควินน์ขดตัวกอดผ้าในมือแน่น ร่ำร้องเรียกหาใครอีกคนที่อยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ ยิ่งเสียงตึกตักข้างหลังดังมาใกล้เรื่อยๆ เขาก็ยิ่งระแวงและหวาดกลัว

ตึก ตึก ตึก

“นิ่ง ฮึก...ช่วยด้วย...ฮือออออ ช่วยควินน์ด้วย นิ่ง...นิ่ง...”

หมับ!

“ฮื้ออออออ!!! นิ่งงงง!!!!

“เออ ได้ยิน ตะโกนทำไม”

ขวับ!

“นิ่ง!

ควินน์โผเข้าหาอกแกร่งทันทีที่หันไปพบว่ามือหนาซึ่งถือวิสาสะจับไหล่ตนนั้นเป็นใคร ใบหน้าหล่อเหลาแต่เฉยชา เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ดีใจขนาดนี้ตอนเจอกัน

“ไป ฮึก! ไปไหนมา ทำไมทิ้ง” เขาสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดอุ่น รับรู้ถึงวงแขนแข็งแรงที่โอบรัดรอบเอวเพรียวของตน

“ใครทิ้ง ไปห้องล็อกเกอร์มา”

“กลัว ฮืออออๆ ควินน์กลัว มืดแล้วด้วย ถะ...ถ้าผีออกมาหลอกล่ะ ผีเลยนะนิ่ง ผีอ่ะ ฮืออออออ”

“ไร้สาระ”

คำตอบของคนไม่เชื่อเรื่องงมงายทำควินน์ยู่ปากใส่ หน้าหวานมู่ทู่หันหนีแต่ไม่ยอมปล่อยแขนที่รัดตัวร่างสูงเอาไว้ จริงๆ มันสมควรขอโทษเขาสิ ไม่ใช่มาว่า ควรปลอบประโลมเขาไม่ใช่แข็งกระด้างใส่แบบนี้

ความน้อยใจบวกความโกรธทำร่างเล็กตัดสินใจปล่อยอีกคนแล้วหันหลังหนีแต่ก็ยังไปไหนไม่ได้เพราะสิงห์กอดรัดเขาไว้แน่นเช่นกัน

“เลิกงอน ง้อไม่เป็น” หนุ่มโยธาพูดเสียงเรียบ

“เหอะ!” เด็กลูกครึ่งสะบัดหน้าหนี น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ก่อนแล้วรื้นขอบตาจนแฉะไปหมด

“กูไม่ได้ทิ้งมึง แล้วที่นี่ก็ไม่มีผี”

“เชื่อได้เหรอ นิ่งไม่เจอแต่ถ้าควินน์เจอล่ะ”

“กูก็จะต่อยผี”

“ห๊ะ!?

“อะไรที่ทำมึงร้องไห้นอกจากกู กูไม่เอาไว้”

ตอบได้ใจความเช่นเดิมและก็เอาแต่ใจไม่เปลี่ยนเลย

“นิ่งก็ห้ามทำควินน์ร้องไห้ด้วยสิ แล้วคนจะไปทำอะไรผีได้”

“ไม่รู้ แต่กูจะทำ”

“ป่าเถื่อน”

“ก็เถื่อนเพื่อมึง”

ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก

เสียงหัวใจในอกบางๆ เต้นไม่เป็นจังหวะ ควินน์ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนความเขินอายจากประโยคแค่ไม่กี่คำเมื่อครู่ ไม่อยากยอมรับแต่ความกลัวที่มีมาตั้งแต่ตื่นหายไปหมดแล้ว ดันกลายมาเป็นว่าหัวใจเจ้ากรรมทำงานหนักแทนซะอย่างนั้น

“ไปล็อกเกอร์ เอานี่มาให้”

มือหนาชูของที่ถือไว้ตั้งแต่แรกให้ควินน์ดู มันคือกางเกงว่ายน้ำสีดำไม่ต่างจากตัวที่อีกคนใส่อยู่แต่ก็ทำเขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

“เอามาให้?...ทำไม?”

“มึงว่ายน้ำไม่เป็น”

“อือฮึ”

“กูจะสอน”

“บ้า!!!” อุทานเสียงหลงกันเลยทีเดียว “นิ่งเนี่ยนะ...จะสอน?”

“เออ”

ให้กูไปเพราะพันธุ์ยุงมังสวิรัติยังดูน่าจะเป็นไปได้มากกว่า

“อย่าถามมาก เปลี่ยนเร็วๆ”

กางเกงตัวสวยถูกยัดใส่มือจนควินน์แบะปากแล้วแบะปากอีก เขาหันไปช้อนตามองคนข้างหลังอย่างออดอ้อนด้วยเหตุผลบางอย่าง

“คือ...นิ่ง...กลัวผีอ่ะ ไม่ไปเปลี่ยนได้ป้ะ”

“ไม่ได้”

“ฮืออออออ”

เสียงหวานครางในลำคออย่างเด็กถูกขัดใจ ควินน์ดื้นไปมาอย่างรุนแรงเพื่อจะบอกว่าเขาไม่ยอมเด็ดขาด และได้ผล มันทำสิงห์ต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เฮ้อ!!! ไฟก็เปิดจ้า ถ้ากลัวขนาดนั้นก็ไม่ต้องใส่”

“จริงนะ!

ควินน์ดีใจจนยิ้มกว้าง โยนกางเกงในมือไปไว้บนเก้าอี้อย่างสบายใจ ไม่ใส่ก็แปลว่าไม่ต้องลงน้ำ แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเสื้อนักศึกษาของเขาเองก็ถูกปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว

พรึบ!

“เฮ้ย! ทำไรเนี่ย!!!

“ถอดเสื้อ” สิงห์ตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำทุกวัน

“อันนั้นรู้ แต่หมายถึงมาถอดทำไม เฮ้ยๆ กางเกง...อย่า!!!!

“มึงกลัวนี่ กูก็ไม่ให้ใส่แล้วไง”

“หมายถึงกางเกงว่ายน้ำ”

“ก็กางเกงว่ายน้ำ”

“แล้วมาถอดกางเกงที่ใส่อยู่นี่ทำไมเล่า!!!!

“ไม่ต้องใส่ก็คือไม่ต้องใส่...ไม่ต้องใส่อะไรเลย”

“ม่ายยยยยยยยยยย!!!!!!!

พูดไปยื้อไปสุดชีวิตแต่ด้วยความที่เป็นนักกีฬามาตั้งแต่มัธยมทำให้หนุ่มโยธาได้เปรียบอาศัยจังหวะเผลอลอกคราบควินน์จนล่อนจ้อนไม่เหลือเสื้อผ้าติดกายสักชิ้นเดียว ร่างบางรีบทรุดตัวนั่งกอดตัวเองด้วยความอายทันที

“อย่ามองนะ ไอ้โรคจิต!!!

“หึๆ”

คนกระทำมองร่างเล็กๆ อย่างอารมณ์ดี เขาก้มลงดึงข้อมือบางขึ้นแม้ในตอนแรกจะถูกขัดขืนแต่เมื่อส่งสายตาข่มขู่ควินน์ก็ยอมให้แต่โดยดี

“ลงไปได้แล้ว”

ไม่ต้องรอให้สมองประมวลผลเลย ร่างเล็กที่กำลังเปลือยเลือกที่จะกระโดดลงน้ำทันที มือบางจับราวบันไดไว้แน่นเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ความใสสะท้อนภาพดุจกระจกเงาที่ไม่ได้อำพรางเรือนร่างทำหน้าหวานร้อนผ่าวไปหมด

เกิดมาไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำกับใครเลยนะ

ตู้มมมม!!!

“โอ้โห โดดซะเท่ เกรงใจหน่อยมะ น้ำกระเด็นใส่หน้ากูเนี่ย!” ร่างเล็กพึมพำพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างอาฆาตแค้น “เถื่อนไม่พอยังหื่นกามอีก คนอะไร”

“เกาะราวเป็นลิงอยู่ได้ มานี่ดิ”

“เออออ สั่งๆๆ คุณท่านก็สั่ง อีเย็นอย่างกูก็ต้องทำตาม ใช่ซี้!!!!! กูเมียทาสหนิ”

“ด่าลับหลังก็อย่าให้กูได้ยิน”

“เฮ้ย! มาไงวะ”

ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อคนที่น่าจะอยู่กลางสระกลับมายืนชิดข้างหลังตอนไหนก็ไม่รู้ เขายังคงจับราวบันไดแน่นไม่กล้าปล่อยเพราะกลัวน้ำมากๆ มันลึกท่วมหัวจมแล้วตายจริงๆ นะ

“นิ่งงงง ว่ายน้ำไม่เป็นนนนน” โอดครวญไปก่อนเผื่อมันจะเห็นใจเขาบ้าง

“ก็จะสอน”

“สอนอะไร มันลึกขนาดนี้ ห่วงยางอ่ะ มีให้มั้ย?”

“ไม่มี” สิงห์ตอบแค่นั้นก่อนจะเอาแขนแกร่งรัดเอวเพรียวแน่นแล้วดึงเข้าหาตัว ควินน์ตกใจลนลานคว้าจับที่ยึดเกาะของตัวเองแน่น

“อ้ากกกกกกก ไม่อาววววว อย่าน้าาาาา!!!!

“มา กูสั่ง”

“ไม่!” เขาตวาดเสียงดังก่อนจะหันไปแบะปากใส่คนข้างหลัง “อยากจะฆาตกรรมกูเหรอนิ่ง!

“กู? ขึ้นกูอีกแล้วนะ!

“โว้ยยย ไม่สน! จะกูอ่ะทำไม ขนาดมึงให้กูล่อนจ้อนอนาจารอยู่คนเดียวยังไม่เห็นใจกูเลย เสื้อนักศึกษากูก็แพง กางเกงก็แบรนด์เนม มึงโยนซะเป็นของสำเพ็งเลย แล้วก็มาสั่งๆๆๆ เป็นพ่อกูเหรอ!!!” เด็กเครื่องกลระบายความอัดอั้นอย่างเหลืออด เขาไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากความปราณีและความสำนึกของคนที่อ้างสิทธิ์สามีบ้าง แต่เขาคงลืมไปว่า...

ไอ้นิ่งของเขามันคนจริงแค่ไหน

หมับ!

“บอกแต่แรกแล้ว กูเป็นผัวมึง”

“ว้ากกกกกกกก!!!!!!!

ควินน์กรีดร้องอย่างตกใจเพราะยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ถูกกอดแล้วกระชากออกจากราวบันไดด้วยแรงที่มากมายมหาศาลของอีกคน เขาตะเกียกตะกายตีแขนขาไปมาจนน้ำในสระแตกกระจาย ความกลัวตายมีมากขึ้นเมื่อถูกลากมาถึงกลางสระ ในน้ำซึ่งขาหยั่งลงไม่ถึงที่พึ่งเดียวที่ร่างเล็กมีคือกายแกร่งของหนุ่มโยธา เขาพลิกตัวกลับไปกอดอีกฝ่ายแน่น เกี่ยวขาขาวเข้าที่เอวสอบโดยไม่สนใจว่าตนนั้นเปลือยเปล่าหรือไม่ ส่วนหน้าอายจะเด่นชัดต่อสายตาคนเย็นชามากน้อยแค่ไหน ตอนนี้สิ่งที่คิดได้อย่างเดียวคือไม่อยากตาย

“มึงบอกว่ากูเอาเปรียบ?” สิงห์โอบกระชับร่างขาวให้แนบแน่นขึ้น มือที่ยังว่างเลื่อนลงข้างล่างทำในสิ่งที่ควินน์คาดไม่ถึง “งั้นถ้ากูถอด ก็จบสินะ”

!!!!!!

ไม่พูดเปล่าหนุ่มโยธายังจัดการกับกางเกงของตนแล้วยกขึ้นมามาโชว์ให้เขาดูก่อนจะขว้างทิ้งไปทิศทางไหนก็ไม่รู้ด้วย ควินน์อ้าปากพะงาบๆ เหมือนคนใกล้ตายเพราะความอันตรายที่สัมผัสได้ช่างน่าหวาดกลัว

“มา..ว่าย..น้ำ..กัน”

เสียงทุ้มที่เย็นเยียบชวนขนลุกเน้นทีละคำก่อนปากหนาจะตรงเข้าครอบครองอวัยวะเดียวกันที่นุ่มหยุ่นของคนตัวเล็กที่กอดเอวแน่น ดูดดึงขบเม้มจนเกิดเสียงน่าอายก่อนจะสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าไปกวาดชิมจนทั่วโพรงปากหวาน ควินน์พยายามขัดขืนแต่เพราะสิงห์ไม่โอบกอดเขาเอาแต่ลูบไล้ไปมาทำให้คนว่ายน้ำไม่เป็นกลัวจับใจ แขนเล็กรัดคออีกคนแน่นพอๆ กับขาเรียวที่ตวัดรัดเอวแกร่งไม่ยอมหนีห่าง

รสจูบดุดันร้อนแรงพาสติเลือนรางจนเผลอจูบตอบไปตามสัญชาตญาณ ลิ้นร้อนเกี่ยวรัดกันไปมาด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่าน เด็กเครื่องกลที่ความรู้สึกไวต่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้วส่งเสียงครางพึงพอใจอย่างเผลอไผลเมื่อลิ้นสีสวยถูกดูดรูดไปมา มือหนาคว้าเข้าที่สะโพกกลมมนทั้งสองข้างบีบคลึงนวดเฟ้นไม่ออมแรง นิ้วเรียวสัมผัสถูไถไปมากับรอยจีบสีสวยทำให้สติของคนอายุน้อยกว่าคืนร่าง

“อะ อ่า...แฮ่กๆ ไม่...นิ่ง อื้ออออ ไหนว่าว่าย...น้ำไง”

“อือ ก็ว่ายน้ำ...น้ำกู”

คำตอบของคนเย็นชาทำเขาเบิกตากว้าง ไม่ทันได้ทักท้วงปากร้อนก็ฉกเข้าที่ยอดอกสีหวานสวย ดูดดึงสลับกับเลียไปมาจนต้องแอ่นอกเข้าหาแล้วครางอย่างห้ามไม่ไหว ควินน์เชิดหน้าขึ้นมองเพดาน รับรู้ถึงนิ้วเรียวที่สอดแทรกเข้ามาพร้อมน้ำในสระที่ทำให้อึดอัด ด้วยท่าทางของเขาเองที่เกี่ยวเอวสอบแน่นมันเลยเหมือนเปิดทางให้ง่ายๆ และคนที่ชอบกลั่นแกล้งก็กำลังลงโทษที่เขาพูดไม่ดีใส่แน่ๆ ถึงกล้าทำอะไรแบบนี้ในน้ำ

“อ๊า!!! น้ำมัน... นิ่ง...ฮื้ออออ อย่า...ขอโทษ ฮึก! ควินน์ขอโทษก็ได้ พอเถอะนะ ถ้ามีคนอื่นเข้ามา...”

“ไม่มี กลับกันไปหมดแล้ว”

“ฮึกๆ ไม่เอา ขอร้อง กลัว ควินน์กลัว” เสียงใสกังวานสะอื้นพร้อมร้องไห้หนักอยู่ในอ้อมกอดแกร่ง คำขอโทษที่ดูจะได้ผลอยู่บ้างเมื่อใครอีกคนเริ่มที่จะอุ้มเขาตรงมายังขอบสระ

“อยู่กับกู กลัวอะไร” หนุ่มโยธาที่ความโกรธลดลงลูบหัวอีกคนไปมาเหมือนพยายามปลอบ เขามาส่งควินน์ถึงราวบันได ให้มือขาวได้ยึดจับมันอีกครั้ง

“ว่ายน้ำไม่เป็น นิ่งไม่เข้าใจหรอก แล้วไปตั้งไกล โดนลวนลามอีก”

“กูจะเอามึง เรียกลวนลาม?”

“กะ ก็...”

คนหน้าแดงซ่านอึกอักไปด้วยความเขินอาย สิงห์จับหน้าหวานขึ้นมาให้มองสบตาเขาแล้วค่อยๆ โอบกอดควินน์อีกครั้ง

“กูไม่ปล่อยเมียตัวเองตายหรอก”

“....(-//////-)”

“ที่จะสอน สอนจริงๆ ถ้ากูไม่อยู่ด้วยแล้วตกน้ำ ใครจะช่วยมึง”

“ตะ แต่สอนที่อื่นก็ได้นี่ สระเด็กแถวๆ คอนโดควินน์ก็มี”

“กูหวงเมีย”

ประโยคเดียวที่ชัดเจนมากจนร่างเล็กต้องก้มหน้าลงหลบตาคมดุ สิงห์คนจริง พูดจริงและไม่เคยโกหก ร่างเปลือยเปล่าสองร่าง ค่อยๆ แนบชิดกันอีกครั้ง คราวนี้ไร้การดิ้นรนขัดขืน มือขาวปล่อยราวบันไดแล้วไปโอบรอบคอร่างสูงเหมือนกำลังบอกว่าไว้ใจอีกคนมากกว่าแล้ว ไว้ใจว่าจะปลอดภัยเมื่อกอดคนเย็นชาเอาไว้

“ยะ อย่าปล่อยนะ”

สิงห์หัวเราะในลำคอหึๆ ก่อนจะยกมือของตนขึ้นมาชูอยู่ตรงหน้าควินน์พอดี

“จับสิ ถ้าจับมือกัน สัญญาว่าจะไม่ปล่อย...ตลอดชีวิตเลย”

ตากลมสวยสบเข้ากับตาคมสีนิลทันทีที่ฟังจบ สลับกับการมองมือใหญ่ที่อยู่ใกล้กัน ลังเลเล็กน้อยกับคำว่าตลอดชีวิต แต่เพราะความหนักแน่นที่สัมผัสได้จากดวงตาและน้ำเสียงทำให้ควินน์ละมือซ้ายออกจากรอบคออีกคนแล้วมาจับประสานนิ้วเข้ากับมือหนาแทน รู้สึกได้ถึงแรงกระชับแน่นก่อนที่เรียวปากสวยจะถูกครอบครองอีกครั้ง

“สัญญา ด้วยชีวิตกู”

สิงห์ยกร่างเล็กขึ้นนั่งบนขอบสระด้วยแขนข้างเดียวโดยที่ยังไม่ปล่อยมือกัน ควินน์รีบชันเข่าขึ้นทันทีด้วยความอายต่อส่วนกลางลำตัวที่ไร้การปกปิด เขามองหน้าคนที่ยังอยู่ในน้ำด้วยความสงสัย มือหนาอีกข้างที่ว่างอยู่เลื่อนไปที่สร้อยคอของตัวเอง ถอดมันออกจากหัวแล้วยื่นมาตรงหน้าเขา

“เกียร์?” ควินน์เบิกตากว้างเมื่อเห็นมันชัดๆ

“ใช่ เกียร์”

ฟันเฟืองสีเงินที่เขายังไม่ได้เพราะเหลืออีกเดือนกว่าๆ ถึงจะจบเชียร์ เชือกสีดำถูกครอบลงมาบนหัวเขา ร่างเล็กก้มลงรับอย่างงงๆ ความกว้างที่ใส่ได้พอดีและตอนนี้มันก็มาอยู่บนคอเขาเรียบร้อย

“ใส่ไว้ กูให้มึง”

“นิ่ง!

เพราะรู้ดีว่าการให้เกียร์สำหรับเด็กวิศวะมันคืออะไร เขาเรียนปีหนึ่งก็จริงแต่พี่รหัสก็ฝอยให้ฟังเยอะพอตัว มันคือการให้ใจ และเกียร์ของคนหน้านิ่งตอนนี้ก็เป็นของเขา

“กูจะรอเกียร์ของมึง”

ประโยคที่ถูกเอ่ยพร้อมกับปากนุ่มที่ถูกบดจูบเป็นครั้งที่สาม ณ สระน้ำแห่งนี้ ควินน์โอนอ่อน ยอมนอนราบลงบนพื้นที่เย็นเยียบ ให้ร่างสูงคร่อมทับในขณะที่มืออีกข้างซึ่งประสานกันถูกยกไปไว้บนหัว ขาขาวแยกออกกว้าง กิจกรรมรักถูกบรรเลงขึ้นต่อจากเมื่อครู่ด้วยความสมยอมและเต็มใจ จังหวะการบรรเลงที่ไม่ได้รุนแรงเท่าครั้งก่อนทำคนตัวเล็กครางเสียงกระเซ่าด้วยความสุขสม ยามเมื่อจุมพิตร้อนถูกมอบมาให้ก็ทำใจดวงน้อยไหวสั่น

“อ๊ะๆ นิ่ง...”

“ฮึ่มมม ต่อจากนี้ มือของมึงจะจับได้แค่กู”

“อื้อออ อย่า...ตรงนั้น...”

“คนที่มึงอ้าขาให้ได้มีแค่กู”

“นิ่ง...”

“มึงรักได้แค่กูจำไว้”



***

//จากในนักเขียน ขอให้ผู้อ่านมีความสุขกับนิยายค่ะ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมียทาส : ไม่ได้เมีย ไม่ทำงาน

NC สิงห์เหนือ (บทที่ 2)